BACK TO EXPLORE

เต็มที่ แต่ไม่กดดัน ทำทุกวันให้ดี แป้ง-อัมพวา ท้วมอ้น นักบาสเหรียญทองซีเกมส์

จากจุดเริ่มต้นที่ชอบว่ายน้ำ กลายเป็นนักบาสเหรียญทองซีเกมส์

ถ้าคิดจะทำ ต้องทำให้เต็มที่ เหมือนกับเธอคนนี้ที่ทุ่มเทเวลาทั้งหมดของชีวิตไปกับบาสเกตบอล “แป้ง - อัมพวา ท้วมอ้น” นักบาสเกตบอลหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม แต่กว่าจะประสบความสำเร็จได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านความพยายามที่สุดในชีวิต สยามเซ็นเตอร์จะพาทุกคนไปทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริง พร้อมหาอินสไปร์เรชันจากฮีโร่เหรียญทองซีเกมส์คนนี้ไปพร้อมๆ กัน


จากเด็กที่ชอบว่ายน้ำ กลายเป็นนักบาสของโรงเรียน
ตอนแรกชอบว่ายน้ำมาก แต่ตอนนั้นที่โรงเรียนประถมไม่ค่อยมีเด็กตัวสูง คุณครูพละเลยชวนให้ไปเล่นบาส ก็เล่นแบบชิลๆ เอาสนุก หลังจากนั้นมีโอกาสได้แข่งในจังหวัด ก็มีผู้ใหญ่มาเห็นแวว ชวนให้ย้ายไปอีกโรงเรียนที่เอาจริงเอาจังกับบาสเกตบอล “ตอนแรกร้องไห้เลย เพราะที่นั่นขึ้นชื่อว่า ซ้อมหนักมาก ซึ่งเราไม่เคยซ้อมแบบนั้น เราไม่ไหวแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ย้ายมา เพราะแม่ดำเนินการ ทำเรื่องทุกอย่างหมดแล้ว”



ติดเยาวชนทีมชาติครั้งแรกตอนอายุ 15
ด้วยความที่โรงเรียนที่อยู่เป็นโรงเรียนประจำ ไม่ค่อยได้กลับบ้านแบบเพื่อนๆ หรือมีโอกาสไปเที่ยวแบบคนอื่น ทำให้ได้ใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทกับการซ้อมบาส ตื่นเช้าตั้งแต่ตี 5 เพื่อไปซ้อม ซ้อมเสร็จไปเรียน ตอนเย็นก็ซ้อมอีกรอบ ชีวิตวนเวียนอยู่แค่นี้ จนเรียกได้ว่า หายใจเข้าออกก็มีแต่บาสเกตบอลจริงๆ ทำให้ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับบาส ได้พัฒนาสกิลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยมีโอกาสติดเยาวชนทีมชาติครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี
“แมทช์แรกได้เล่นกับพี่ๆ อายุ 18 ปี ตอนแรกคิดว่าจะไม่ได้ลงด้วยซ้ำ เพราะยังเด็ก ในขณะที่พี่ๆ เล่นเก่ง มีความเก๋าเกมส์ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก ทุกคนในทีมบอกว่า เราหน้าตาเลิ่กลั่กมาก ได้ลงไปเล่นไม่กี่นาที โค้ชก็เอาออกเลย (ฮา)”




ติดทีมชาติประเภท 3x3 ครั้งแรก ซีเกมส์ 2019
หลังจากที่ติดเยาวชนทีมชาติ ก็เริ่มมีประสบการณ์แข่งหลายๆ สนาม ทั้งในไทยและต่างประเทศ เลยได้โอกาสติดตัวจริงบาสเกตบอล 3x3 ทีมชาติไทย ตอนซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์  “จำได้ว่าแมทช์แรกที่ลงไม่ตื่นเต้นเลย แต่กดดันมาก เพราะแพ้ไม่ได้ ต้องเจอกับทีมอินโดนีเซีย ซึ่งเขาอิมพอร์ตนักกีฬาต่างชาติมา แล้วเล่นเก่ง ตัวสูงมาก เราก็คิดตลอดว่าเราจะทำอย่างไรดี เอาอะไรไปสู้เขา ซึ่งสำหรับเรา ถ้าขึ้นชื่อว่าอิมพอร์ตมา แสดงว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว บวกกับเรารู้สึกว่าเรายังทำได้ไม่ดีพอ ยิงลูกไม่ลง มีหลุดบ้าง แต่ข้อดีของพวกเราคือพวกเราเป็นทีมเวิร์ค เราคุยกันได้ เราเตือนสติกัน เราช่วยกัน จนได้เหรียญเงินมาครอง”


“ผ่าตัด” ช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิต
หลังจากการแข่งขันซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์จบลงได้ไม่นาน แป้งก็ต้องเข้ารับการผ่าตัดจากอาการบาดเจ็บที่มีมาอย่างยาวนาน “ทนเจ็บมานานมาก เจ็บมาเรื่อยๆ ตั้งแต่มัธยม แต่ไม่ได้รักษาให้หายขาด เวลาเจ็บก็ประคบน้ำแข็งไปเรื่อยๆ แต่เราไม่รู้เลยว่าข้างในเป็นอย่างไร จนวันที่ไปพบคุณหมอ จึงรู้ว่าข้างในเริ่มมีหินปูน แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร พยายามรักษาแบบกายภาพมาเรื่อยๆ แต่เราก็ยังใช้งานหนัก เพราะมีแข่งตลอด จนตัวเราเริ่มไม่ไหว ตื่นเช้ามา กว่าจะลงน้ำหนักได้แต่ละทีคือเจ็บมาก เมื่อก่อนอาจจะเจ็บวันจันทร์ วันอังคาร พอวันพุธ วันพฤหัสบดีอาการจะเบาลง พอวันศุกร์จะค่อยๆ คลาย แล้วมาเจ็บใหม่ แต่ช่วงก่อนผ่าตัดคือเจ็บตลอดทั้งเดือน ไม่มีวันไหนที่ไม่เจ็บ เลยตัดสินใจไปพบคุณหมอ จึงรู้ว่าตอนนี้หินปูนมันใหญ่ขึ้นมาก ใหญ่กว่าเดิมมาเท่าหนึ่ง เลยตัดสินใจผ่าตัด”


“หลังผ่าตัดคือช่วงเวลาที่ยากที่สุด ทุกอย่างต้องเริ่มฝึกใหม่ทั้งหมดเหมือนเด็กแรกเกิด ฝึกเดิน ฝึกขยับนิ้วเท้า ฝึกยกเท้า ต้องวิ่งบนเครื่องลู่วิ่ง ต้องกายภาพตลอด  เวลาเดินต้องใช้ไม้เท้าช่วย กว่าจะกลับมาเดินได้ใช้เวลา 4 เดือนเต็ม ตอนนั้นแพนิคมาก จิตตกเหมือนกัน กลัวกลับมาไม่ได้ เพราะเรายังอยากเล่นบาสอยู่  เลยพยายามกายภาพ ทำตามคำแนะนำ ออกกำลังกาย ฝึกทุกอย่าง ใช้เวลาปีกว่าๆ ก็กลับมาเล่นบาสได้”



“แรกๆ ไม่รู้ตัวเลยว่าวิ่งไม่เหมือนเดิม เรายังลงน้ำหนักกับขาขวาเหมือนเดิม แต่เราลงน้ำหนักขาซ้ายที่ผ่าตัดน้อยลง เหมือนเราเซฟขามากขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว แต่คนรอบข้างเห็นหมด กว่าจะกลับมาเป็นปกติ ต้องปรับท่าวิ่ง ฝึกซ้อมอยู่นานมาก แต่เพราะเราอยากกลับมาเดินได้ปกติ ยังอยากกลับมาเล่นบาสเกตบอลได้เหมือนเดิม เลยทำให้อดทนแล้วผ่านมันมาได้”


โมเมนต์เหรียญทองซีเกมส์ 2021

หลังจากอาการดีขึ้น ได้กลับมาเล่นบาสเกตบอล คุณแป้งก็ได้โอกาสกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง ในการแข่งขันซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม ด้วยการซ้อมอย่างหนักและการเป็นทีมเวิร์ค ทำให้ทีมชาติไทยชนะจนได้เข้าชิงเหรียญทองกับทีมเจ้าภาพ
“ตอนนั้นไม่ตื่นเต้นเลย เพราะเราซ้อมมาเป็นอย่างดี ซ้อมเยอะทุกวัน ตอนแข่งก็เล่นไปตามเกมส์ พยายามเซฟตัวเองให้ดีที่สุด ระวังเรื่องการฟาวล์ เพราะเขาเป็นเจ้าภาพ ถ้ามีโอกาสได้ดูแข่งจะเห็นว่า กองเชียร์ข้างสนามเยอะมาก แต่เราก็บอกกันในทีม ไม่ว่ารอบข้างหรือเสียงเชียร์ข้างสนามจะดังขนาดไหน ไม่ต้องไปสนใจ ฟังเสียงโค้ชคนเดียว ตามองแค่สนาม สกอร์ และโค้ช แค่นั้นจริงๆ”



มีวูบหนึ่งที่เครียดเหมือนกัน เพราะแต้มมันสูสีมากๆ คิดในใจ จะเอาอย่างไรต่อดี แต่ก็พยายามนิ่งไว้ก่อน กลัวเพื่อนเห็นรีแอคแล้วจะเครียดตาม ก็พยายามบอกทุกคนว่า ไม่เป็นไร ชิล ไปต่อ แล้วน้องบิวก็ยิงลงพอดี เราก็เลยได้เหรียญทอง นอกจากทีมเวิร์คที่พวกเรามีแล้ว อีกอย่างคือเพราะเราซ้อม และเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ตอนซ้อมมีน้องๆ นักกีฬาด้วยกันมาเป็นคู่ซ้อม มาทำเป็นกองเชียร์เสียงดังๆ เสียงโห่ ตอนแข่งจริงก็เลยไม่กดดัน เพราะมันเหมือนตอนที่เราซ้อมมา



เป้าหมายในปีนี้
อยากกลับไปไปรักษาแชมป์ซีเกมส์ ไปเอาเหรียญทองกลับมาฝากแฟนบาสชาวไทย แล้วก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด หลังจากแข่งเสร็จก็อยากไปพักผ่อน ไปทำอะไรใหม่ๆ ให้เวลากับตัวเอง เพราะปีที่ผ่านมามีแข่งตลอด ทุ่มเทกับบาสเกตบอลตลอดทั้งปี เลยอยากออกไปรีแลค ลองทำอย่างอื่นดูบ้าง


บาสเกตบอลให้อะไร
ให้เพื่อน ให้รายได้ ให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ฝึกนิสัยความมีวินัย ได้เจอสิ่งแวดล้อม ได้เจอผู้คนมากมาย ได้เรียนรู้การใช้ชีวิต อยากขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะด้านไหนก็แล้วแต่ และที่อยากขอบคุณมากที่สุดคือ “ตัวเอง” ที่อดทน และรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองจนทำให้เรามาไกลขนาดนี้ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ คิดแค่ว่า เดี๋ยวเข้าโรงเรียน พอเรียนจบก็เข้ามหาวิทยาลัย ไม่เคยคิดว่าเราจะติดทีมชาติ ไม่เคยคิดว่าเราจะได้เหรียญทอง ไม่เคยคิดว่าจะมาไกลขนาดนี้


ฝากถึงน้องๆ หรือคนที่เริ่มเล่นบาสเกตบอล
ถ้าเลือกมาทางนี้แล้ว อยากให้ทุกคนตั้งใจซ้อม ตั้งใจเล่น พยายามพัฒนาความสามารถของตัวเองตลอด เต็มที่ในทุกวัน แต่ไม่กดดันมากเกินไป แล้วที่สำคัญที่สุดคือไม่อยากให้ทิ้งการเรียน อยากให้ทำทั้งสองอย่างควบคู่ไปด้วยกัน


เพราะทุกความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แวะมาหาอินสไปร์เรชัน เพิ่มแพชชั่นให้กับตัวคุณได้ที่สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ทั้งสปอร์ต แฟชั่น บิวตี้ และไลฟ์สไตล์ ครบจบในที่เดียว

YOU MAY ALSO LIKE