BACK TO EXPLORE

“แสงเทียน”

เพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่ยังเป็นหนึ่งในใจไม่เคยลืมเลือน

ยังจำวิชาดนตรีที่เคยเรียนสมัยอยู่ชั้นประถมศึกษาที่คุณครูบอกว่า “วันนี้เรามาเรียนเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวง ร.9” กันนะคะ!” ตอนนั้นเราเลือกเพลงแสงเทียนมาขับร้องหน้าห้องเรียน ในวัยที่ยังเป็นเด็กทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเป็นเพลงที่ร้องค่อนข้างยากด้วยจังหวะเพลงบลูส์ ยังไม่ได้เข้าใจในเนื้อร้องว่ามีความหมายลึกซึ้งมากเพียงไหน

จนถึงวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา มีสถานีวิทยุคลื่นหนึ่งที่เปิดเพลงพระราชนิพนธ์ “แสงเทียน” อีกครั้ง เราค่อยๆ ฟังทีละท่อนทีละประโยค เสียงของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นดังก้องในโสตประสาทกลั่นออกมาเป็นน้ำตา ทำให้เราก้มลงไปกราบและระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชซึ่งทรงมีพระอัจฉริยภาพทางดนตรีอย่างลึกซึ้ง เปรียบเสมือนปราชญ์ด้านคีตศิลป์ที่ในชีวิตนี้คงหากษัตริย์พระองค์ไหนเสมอเหมือน

 

แสงเทียนที่ทุกคนต้องสัมผัส...

เพลง “แสงเทียน” นับเป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2489 ครั้นดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระอนุชา ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย แต่เนื่องจากมีพระราชประสงค์ที่จะทรงแก้ไขทำนองและคอร์ดบางตอนจึงยังไม่โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้นำออกมาบรรเลงในเวลานั้น ต่อมาได้พระราชทานให้นำออกบรรเลงครั้งแรก พ.ศ. 2490 และในปี พ.ศ. 2496 นางสาวสดใส วานิชวัฒนา (ปัจจุบันคือรองศาสตราจารย์ สดใส พันธุมโกมล) ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษถวาย

“จุดเทียนบวงสรวงปวงเทพเจ้า สวดมนต์ค่ำเช้าถึงคราวระทมทน
โอ้ชีวิตหนอล้วนรอความตายทุกคน หลีกไปไม่พ้นทุกข์ทนอาทรร้อนใจ
ต่างคนเกิดแล้วตายไป ชดใช้เวรกรรมจากจร
นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยงเสี่ยงบุญกรรม ทุกคนเคยทำกรรมไว้ก่อน
เชิญปวงเทวดาข้าไหว้วอน ขอพรคุ้มไปชีวิตหน้า ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
หนีปวงโรคาที่เบียดเบียน แสงแววชีวาเปรียบแสงเทียน
เปรียบเทียนสิ้นแสงยามแรงลมเป่า ชีพดับอับเฉาเหมือนเงาไร้ดวงเทียน
จุดเทียนถวายหมายบนบูชาร้องเรียน โรคภัยเบียดเบียนแสงเทียนทานลมพัดโบย
โรครุมเร่าร้อนแรงโรย หวนโหยอาวรณ์อ่อนใจ ทำบุญทำทานกันไว้เถิดเกิดเป็นคน
ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่ เคยทำบุญทำคุณปางก่อนใด ขอบุญคุ้มไปชีวิตหน้า
ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา แสงเทียนบูชาจะดับพลัน แสงเทียนบูชาดับลับไป”

หลังจากพระราชนิพนธ์ทำนองเพลง แสงเทียน เป็นเพลงแรก จวบจบทุกวันนี้มีเพลงพระราชนิพนธ์ทั้งหมด 48 เพลงแล้วซึ่งแต่ละเพลงมีทำนองที่สอดคล้องกับเนื้อเพลง ฟังแล้วมีความสุข อิ่มเอมใจและเข้าถึงจุดมุ่งหมายได้ไม่ยากผ่านท่วงทำนองโลดแล่นอย่างละเมียดละไม ในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้ทรงรับสั่งแก่สมาคมดนตรีว่า “(เพลงแรกคือแสงเทียน)... จากนั้นฉันก็แต่งขึ้นอีกเรื่อยๆ จนบัดนี้รวมทั้งหมด 40 เพลง ในระยะเวลา 20 ปี คิดเฉลี่ยปีละ 2 เพลง ที่ทำได้ก็เพราะได้รับความสนับสนุนจากนักดนตรี นักเพลงและนักร้อง รวมทั้งประชาชผู้ฟัง ต่างได้แสดงความพอใจ และความนิยมพอสมควร จึงเป็นเป็นกำลังใจแก่ฉันเรื่อยมาขอถือโอกาสขอบใจมาในที่นี้ด้วย”


วันนี้ปวงชนชาวไทยเราอาจจะเสียใจที่พระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรคาลัยไปแล้ว แต่เมื่อไหร่ที่คิดถึง เราก็สามารถเปิดเพลงพระราชนิพนธ์ขึ้นมาฟัง นอกจากความสุนทรีย์ในทุกโน้ตเพลง ทุกๆ เพลงพระราชนิพนธ์ยังแฝงมงคลชีวิตซึ่งในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานไว้ให้แก่คนไทยไว้ตราบชั่วลูกชั่วหลานจึงทำให้ชาวไทยและชาวต่างชาติต่างขนานพระนามพระองค์ทรงเป็นอัครศิลปินที่โลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ถึงพระปรีชาสามารถด้านดนตรีอย่างแท้จริง