BACK TO EXPLORE

WEE เสื้อผ้าของผู้หญิงเก่งจากฝีมือดีไซเนอร์หัวใจสุดแกร่ง

WEE เสื้อผ้าของผู้หญิงเก่งจากฝีมือดีไซเนอร์หัวใจสุดแกร่ง
เรื่องราวของเธอคือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ของผู้หญิงทุกคน!

ในใจของผู้หญิงที่ต้องทำงานเหนื่อยและหนัก คงอยากมีวันที่รู้สึกฟิน ได้เป็นเจ้าของเสื้อผ้าคัตติ้งสวยๆ งานประณีตเอาไว้ใส่ไปทำงานหรือออกงาน เสื้อผ้าที่จะตอบแทนความทุ่มเทและเป็นการขอบคุณตัวเองได้ดีมาก เราคิดว่าหนึ่งในชุดเหล่านั้นก็คือแบรนด์ WEE เพราะกว่าจะมาเป็นเสื้อผ้าสุดอลังบนราวในร้านที่สยามเซ็นเตอร์ คุณวี – สุภาวดี ศิริรัตนพล ได้พิสูจน์มาแล้วว่าการเป็นดีไซเนอร์ในวัย 50 กว่าๆ ก็สามารถทำเสื้อผ้าให้อยู่ในใจผู้หญิงทุกวัยได้อย่างสง่างาม

 

ผ่านการทำงานและความผิดพลาดด้วยหยดน้ำตา
พี่วีเล่าเส้นทางชีวิตที่ผ่านมาให้เราฟังเหมือนกับละครสุดเข้มข้นเรื่องหนึ่งว่า “พี่เป็นเด็กต่างจังหวัด เป็นคนหนองคาย ที่บ้านทำร้านอาหาร เข้ามาเรียนที่รามคำแหงในกรุงเทพฯ คนเดียว ทั้งที่ที่บ้านไม่อยากให้มาเรียนต่อไกลขนาดนี้ เรียนจบปริญญาแล้วก็กลับบ้านไปทำธุรกิจร้านอาหาร ไปปรับปรุงร้านให้ทันสมัยขึ้นจนกระทั่งมีชื่อเสียงที่คนในจังหวัดจะรู้จักหมดชื่อว่า “ร้านหลังจวน” เพราะอยู่ติดกับจวนผู้ว่าฯ พอดีกับที่ช่วงนั้นเป็นยุคที่ดินเฟื่องฟู มีการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาว เป็นนายหน้าค้าที่ดิน ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของโครงการที่ดินจัดสรรและหมู่บ้านจัดสรร”

 


พลิกธุรกิจมาขายลูกปัดที่สำเพ็ง

และถ้าใครจำช่วงประเทศไทยฟองสบู่แตกได้ พี่วีก็เป็นหนึ่งคนที่ล้มจากวิกฤตตอนนั้นเป็นหนี้มหาศาล “ปี 2540 พี่เป็นหนี้ 40-50 ล้านบาท แบงค์ไม่ปล่อยกู้ ธุรกิจค้างอยู่อย่างนั้น ช่วงนั้นพี่เครียดมากถึงขนาดเคยคิดสั้น แต่สิ่งที่ทำให้พี่คิดได้คือหน้าแม่ขึ้นมาคนแรกเลย ถ้าพี่ไม่อยู่แล้วแม่จะอยู่ยังไง พ่อพี่จะคิดยังไง พี่คิดว่าเราคงเห็นแก่ตัวมาก ถ้าหนีไปคนเดียว พี่เลยลุกขึ้นมาสู้ กลับมาอยู่กรุงเทพฯ ทั้งที่ไม่อยากมาเลย พี่ชอบชีวิตต่างจังหวัดมากที่สุด ตั้งใจมาหาเงินล้างหนี้ ทั้งที่ไม่รู้จะล้างหมดมั้ย”

 

“ตอนนั้นตั้งใจหาของไปขายที่หนองคาย เข้ามาที่สำเพ็งเจออาเฮียอาเจ๊มาเจอแหล่งช่วงสะพานหัน ตรอกหัวเม็ด ขายของตกแต่งเสื้อผ้า ลูกปัด เลื่อม พี่เห็นแล้วรู้สึกว่าเขาหาเงินง่ายจัง อยากทำอย่างนี้บ้าง พี่รวบรวมเงินทั้งหมด ขายรถ ขายเครื่องเพชรมาเช่าร้านในสำเพ็ง จากไม่เคยรู้อะไรเลย เขานำเข้าที่ไหนก็ไปศึกษา ลูกปัดและเลื่อมที่นำมาขายนำจะมาจากญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน ปกติสำเพ็งเน้นขายส่ง พี่ขายทั้งปลีกและส่ง ดูแลลูกค้าดี ลูกค้าติด ทำให้พี่มีกำไรขึ้นมา แล้วได้รู้จักโรงงานการ์เมนท์ ไทยดีไซเนอร์หลายๆ ท่าน ธุรกิจเติบโตจากร้านชื่อ “รุ่งเรือง” ห้องแถวเล็กๆ ย้ายเป็นร้าน “เจริญ” ร้านขายลูกปัดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย กลายเป็นช้อปปิ้งมอลล์ที่หลายๆ คนรู้จักกัน”

พี่วีบอกว่าสิ่งที่ตอบแทนมาไม่ใช่อะไรที่ได้มาง่ายๆ แต่พี่วีขยันและอดทน ขายที่สำเพ็งช่วงแรกๆ ไม่ได้กินข้าวกินปลา ตั้งใจทำงานอย่างเดียว “พี่ขายตั้งแต่เช้าถึงเย็นกับลูกจ้างจนมีเงินขึ้นมา ทุกวันนี้กลับมาขายส่งมากขึ้น พี่ผลิตลูกปัดเอง เราสั่งเครื่องจักรทำในโรงงานเล็กๆ ถึงวันนี้ก็เกือบ 20 ปีแล้ว”

 

ฝันการทำแบรนด์เสื้อผ้า
หลังจากธุรกิจขายลูกปัดสำเร็จอย่างสวยงาม พี่วีหันมาจับการทำแบรนด์เสื้อผ้าตามชื่อของตัวเองที่คนทั่วไปจดจำได้ง่าย “พี่ชอบแต่งตัว ชอบงานเย็บปักถักร้อย มีทักษะพวกนี้มาเยอะ เพราะคนรุ่นพี่ตอนเด็กๆ เราจะตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยจักรโบราณเอง ได้ความรู้จากคุณแม่ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว พี่รู้สึกว่าพี่มีความสุข มีเงิน มีเวลาออกกำลังกาย อยากตามหาความฝันที่ชอบแต่งตัวตอนเด็ก เพราะเราเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวหลากหลาย เปรี้ยวเท่ พี่มีเสื้อผ้าเยอะมาก”

“ตอนแรกคิดว่าจะทำเสื้อผ้าสเกลเล็กๆ ที่ตัวเองชอบ ไม่คิดว่าจะเติบโตได้ขนาดนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา เพราะเราเป็นคนทำงานจริงจัง ตั้งใจทำให้สำเร็จ พี่ดูแลเทคนิคตัดเย็บทุกอย่างด้วยตัวเอง ใช้ความรู้ตั้งแต่เด็กและศึกษาเพิ่มเติม เอาความรู้สมัยใหม่บวกเทคนิคสมัยเก่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากเมื่อก่อนค้าขายเป็นแม่ค้าคนกลาง พอทำแบรนด์แล้วเราเหนื่อยตั้งแต่จุดเริ่มต้น ไอเดียแต่ละคอลเลคชั่น อินสไปเรชั่นตั้งแต่ดีไซน์ การเลือกผ้า พิมพ์ลายผ้า เลือกกระดุม เลือกซิปเองหมด สร้างแพทเทิร์น ทำงานร่วมกับผู้ช่วยในการสร้างแพทเทิร์น ถึงตัดเย็บ” ความเอาจริงของพี่วีถึงขนาดใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ตั้งแต่ทำแพทเทิร์นจากคอมพิวเตอร์ สั่งเครื่องตัด auto cut มูลค่า 6 ล้านบาท เพื่อพัฒนาให้แบรนด์เป็นมาตรฐานใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย

 

WEE กลายเป็นแบรนด์แฟชั่นที่ทุกคนจับตามอง
พี่วีเล่าว่า “ลองเสี่ยงเข้ามาเสนอที่ศูนย์การค้าสยามพารากอนทั้งที่ไม่รู้จักใครเลย ไม่รู้ว่าต้องเริ่มธุรกิจเสื้อผ้ายังไง แค่ทำเพราะตั้งใจใส่เอง ก่อนเข้ามาเสื้อผ้าพี่ผลิตเสร็จแล้ส ถุงทุกอย่างทำพร้อมหมด มี lookbook พร้อม และได้มาเปิดป๊อบอัพที่ห้าง โชคดีที่ได้โอกาสจากสยามเซ็นเตอร์มาเปิดเป็นช้อปด้วยค่ะ”


ถ้าใครที่ได้เดินเข้ามาดูเสื้อผ้าในร้าน WEE เราจะได้รับพลังของชุดที่ดึงอินเนอร์ของผู้หญิงออกมาเยอะมาก พี่วีบอกว่า “ผู้หญิงของ WEE เป็นผู้หญิงเก่ง ดังนั้นอาจจะเป็นผู้หญิงทำงานนอกบ้านเก่ง ชอบสังคม หรือเป็นผู้หญิงที่อยู่กับบ้าน ดูแลสามีดูแลลูก พี่เองก็ทำอาหารเก่ง ทำงานบ้านเก่งนะคะ ผู้หญิง WEE คือคนที่ไม่ยอมหยุดสวย ตอนนี้พี่อายุ 53 ปีแล้ว ยังแต่งตัว ชอบเสื้อผ้ามิกซ์แอนด์แมทช์ได้ นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะพี่เชื่อว่าผู้หญิงสมัยก่อนกับผู้หญิงสมัยนี้ก็คือคนเดียวกัน แบรนด์ WEE เลยมีเสื้อผ้าหลากหลาย เปรี้ยว เท่ เซ็กซี่ในตัว”

 

Forest Impression คอลเลคชั่นใหม่แห่งความสดชื่น
ในคอลเลคชั่นสปริง ซัมเมอร์ 2018 นี้ WEE ใส่ความพลิ้วไหวเข้าไปในผ้าซาติน ชีฟองพิมพ์ลายไม้ดอกไม้ใบและหมู่แมลง พี่วีพูดถึงแรงบันดาลใจว่า “พี่ได้ประสบการณ์มาจากการเดินป่าที่เขาใหญ่ พี่รู้สึกสดชื่นมากทั้งที่เป็นหน้าร้อน แต่ด้วยความดิบชื้นที่ได้เห็นต้นปาล์ม ต้นหมาก มีผีเสื้อมีแมลงมาเกาะทำให้พี่ประทับใจมาก พี่เก็บความเขียวชอุ่มของป่าเป็นที่มาของคอลเลคชั่นนี้”

สาวๆ สามารถติดตามคอลเลคชั่น Forest Impression ได้ในโชว์ของ WEE ในงาน Bangkok International Fashion Week 2018 ในวันที่ 25 มีนาคม 2561 ผ่านทางไลฟ์สดบนเฟซบุ๊ค Siam Paragon รวมทั้งเร็วๆ นี้ WEE จะมีแบรนด์ที่ออกมาใหม่ชื่อว่า WA by WEE ช้อปแรกที่สยามเซ็นเตอร์ เป็นเสื้อผ้าที่เด็กลง ราคาถูกลง ใส่ในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น ใส่ได้ทั้งวัยรุ่นไปถึงคุณแม่ การตัดเย็บละเอียดเหมือนกับ WEE ชาวแฟชั่นนิสต้าต้องจับตารอเอาไว้ให้ดี!

YOU MAY ALSO LIKE