BACK TO EXPLORE

ชุดดำสะท้อนความเชื่อที่น่าสนใจของ Adhoc

ชุดดำสะท้อนความเชื่อที่น่าสนใจของ Adhoc
All things are nothing เมื่อทุกสิ่งคือความว่างเปล่า

ท่ามกลางช็อปสีสันละลานตารับซัมเมอร์ กลับมีหนึ่งร้านบนชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ ที่ไม่ว่าจะผ่านหน้าฝน พ้นลมหนาว จนถึงคราวหน้าร้อน ต่อให้ผ่านไปกี่คอลเลคชั่นก็ไม่เคยเปลี่ยนสีไปเลยนั่นคือช็อป Adhoc แบรนด์สีดำสุดลึกลับ จากฝีมือการออกแบบของสองดีไซเนอร์สัญชาติไทยอย่าง ซาน-วิยะดา เตียวพงษ์พันธุ์ และธัช-ศรัณยธัช กวินโชติไพศาล ที่มีดีกรีเป็นถึงรองชนะเลิศอันดับ 1 จากเวที Vogue Who’s on Next, The Vogue Fashion Fund 2016 มาแล้ว

 

ย้อนกลับไปกว่า 10 ปี  Adhoc เริ่มก้าวแรกจากการเป็นร้านเสื้อผ้าเล็กๆ ในสยามสแควร์ เพราะเสื้อผ้าสมัยนั้นเหมือนๆ กันไปหมด วิยะดาซึ่งเป็นคอสตูมสไตลิสต์ในตอนนั้น จึงเริ่มหาความแปลกใหม่ โดยเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองหลงใหล เมื่อประกอบกับความชอบและความเชื่อของศรัณยธัช จึงลงตัวที่เสื้อผ้าสีดำทะมึน “จริงๆ แม้แต่สีดำเองก็มีหลายเฉด เรามองว่าสีดำ มันสุขุม มันลุ่มลึก ใครจะมองว่ามันร้ายก็ได้ แต่ในความร้าย มันก็มีความดีอยู่ มันดูสงบ แต่ก็ดูเกี้ยวกราดได้ในขณะเดียวกัน” ความคอนทราสต์นี้เองที่ทำให้ดีไซเนอร์ทั้งสองพลิกแพลงและตีความจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ในการออกแบบที่แค่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือ Adhoc

 

เราเรียกแนวของเราว่า Black Perspective เพราะเราเชื่อว่าโลกไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด” เสื้อผ้าของ Adhoc จึงสะท้อนความเชื่อนั้นผ่านสีดำเป็นหลัก อาจแซมด้วยขาว และเทาบ้าง มีการใช้เนื้อผ้าที่หลากหลายทั้งผ้าวูลถักที่ใครจะคิดว่าเอามาใส่ในหน้าร้อนได้ (และใส่สบายมากด้วย) ไปจนถึงวัสดุที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเอามาทำเสื้อผ้าได้ อย่างท่อใส่สายไฟที่เอามาทำเป็นเครื่องประดับ “เพราะเราเน้นสีดำ จึงต้องเอาแมตทีเรียลที่หลากหลายมาสร้างเลเยอร์ให้สีดำน่าสนใจมากขึ้น” แถมด้วยลูกเล่นที่แฝงมาในแพทเทิร์นที่สามารถถอดออกเป็นชิ้นได้ ทำให้เสื้อหนึ่งตัวใส่ได้หลายแบบ และอีกหนึ่งลายเซ็นที่ติดตาผู้พบเห็นทันทีคือ Calligraffiti หรือตัวอักษรที่เขียนด้วยปากกาหัวตัด หรือพู่กันหัวแบน ผสมผสานกับลายกราฟฟิตี้สุดสตรีท ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Black Letter (หรือ Gothic script) เหมือนเป็นแมสเซสที่ดีไซเนอร์อยากสื่อสารไปถึงสังคม เช่น Disbelieve ที่หมายถึงการไม่เชื่อในสิ่งใดเลย ไปจนถึงข้อความที่ขีดเขียนออกมาแบบแอบซ์สแตร็คในคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง All Things are Nothing ที่สื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างคือความว่างเปล่า เพราะสุดท้ายทุกคนก็ต้องตาย

 

ผมได้ไอเดียมาจาก ปรัชญา Nihilism หรือแนวคิดสุญนิยมซึ่งพูดถึงความว่างเปล่า” ศรัณยธัชเล่าถึงแรงบันดาลใจในคอลเลคชั่นล่าสุดอย่างออกรส “ความว่างเปล่าในที่นี้ หมายถึง การมองเห็นศาสนา สังคม ศีลธรรม การเมือง การปกครอง หรือแม้กระทั่งคุณค่าในชีวิตของตัวเราเองว่าเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น มันไม่มีอยู่จริง ความจริงก็คือคำโกหกที่ถูกเชื่อตามกันมา มันเป็นปรัชญาต้นศตวรรษที่ 19 โดย Friedrich Nietzsche เป็นยุคหลังการปฏิวัติโครงสร้างทางวิทยาศาสตร์ ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยของศาสนจักร การเมือง การปกครองทั้งหลายว่ามันดีจริงกับเราหรือเปล่า เพราะว่าคนทุกคนไม่เหมือนกัน มันไม่มีความจริงไหนที่จะเหมาะกับคนทุกคน”

 

ด้วยแนวคิดที่เข้มข้น ชัดเจนแบบนี้เอง จึงทำให้ Adhoc เป็นมากกว่าเสื้อผ้าที่สะท้อนรสนิยมคนใส่ แต่ยังเติบโตไปเป็นซับคัลเจอร์ที่น่าสนใจอีกด้วย “จริงๆ แล้ว Black Perspective คือสิ่งที่เราเรียกตัวเราเอง แต่ถ้าในสังคมโลก การแต่งตัวแบบนี้เรียกว่า Street Goth หรือ Ninja Goth” ซึ่งคำว่า Goth นั้นหมายถึงซับคัลเจอร์แบบ Gothic ซึ่งในไทยยังไม่แพร่หลายนัก “เราชอบสไตล์นี้ เราอยากทำให้คนรู้จักสไตล์นี้มากขึ้น” วิยะดากล่าวทิ้งท้าย น้ำเสียงหนักแน่นและบรรยากาศดำทะมึนจากเสื้อผ้าในร้านยิ่งตอกย้ำความเชื่อของดีไซเนอร์ทั้งสองคนที่ว่า แม้โลกจะไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด แต่มันก็คือความจริงที่สุดท้ายก็ต้องปลง เพราะมันคือชีวิต

YOU MAY ALSO LIKE